Ads 468x60px

Featured Posts

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

บัวบก

ใบบัวบกของดี มีสรรพคุณมาก
              เมื่อเอ่ยถึงบัวบกมักจะนึกถึงคนอกหักที่มีความรู้สึกช้ำลึก ๆ  อยู่ในใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สงสัยและค้างคาใจตลอดว่าบัวบกมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เมื่อได้มาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ  และถามผู้มีความรู้เรื่องบัวบกพบว่านอกจากจะรับประทานสด ๆ  ตามความนิยมของผักพื้นบ้านแล้ว ยังมีสรรพคุณในทางยาอีกด้วย และสิ่งหนึ่งที่คิดว่าทุกคนต้องจำได้พูดกันติดปากคือ รับประทานบัวบกแก้ช้ำใน

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

ประวัติสมุนไพร

วิวัฒนาการของสมุนไพรกว่าจะมาเป็นยารักษาโรค
     สมุนไพรเป็นคลังยารักษาโรคของมนุษยชาติมาแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ นับแต่ยุคนีแอนเดอร์ทัลในประเทศอิรักปัจจุบัน  ที่หลุมฝังศพพบว่ามีการใช้สมุนไพรหลายพันปีมาแล้วที่ชาวอินเดียนแดงในแม็กซิโกใช้ต้นตะบองเพชร(peyote) เป็นยาฆ่าเชื้อและรักษาบาดแผล ปัจจุบันพบว่า (peyote) มีฤทธิ์กล่อมประสาท (hallucinogen) ประมาณ 4,000 ปีมาแล้ว ชาวสุมาเลียนได้เข้ามาตั้งรกราก ณ บริเวณแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติสปัจจุบัน คือ ประเทศอิรัก ใช้สมุนไพร เช่น ฝิ่น ชะเอม ไทม์ และมัสตาร์ด และต่อมาชาวบาบิโลเนียนใช้สมุนไพรเพิ่มเติมไปจากชาวสุมาเลียน ได้แก่ ใบมะขามแขก หญ้าฝรั่น ลูกผักชี อบเชย และกระเทียม

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

ใบพลู

สารสกัดจากใบพลู ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา


                    ใบพลูเป็นของคู่กันกับหมากมาช้านาน คนไทยจึงเรียกว่าหมากพลูคู่กันเสมอ ปัจจุบันบทบาทของหมากพลูที่แพร่หลาย คือใช้เป็นเครื่องไหว้บูชาในงานพิธีสำคัญต่างๆ หรือใช้ไหว้พระไหว้เทพเจ้า การเคี้ยวหมากพลูกลายเป็นของต้องห้ามของคนไทยตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี มีการตัดต้นหมากและพลูทิ้งเป็นจำนวนมาก ซึ่งน่าเสียดายยิ่งนักเพราะหมากพลูไม่ได้ใช้ประโยชน์แค่นั้น แต่ยังเป็นยาที่มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะพลูนั้นใช้ประโยชน์ได้เสมือนยาสามัญประจำบ้าน ปลูกไว้มีแต่ได้ประโยชน์  นอกจากเป็นเครื่องเคี้ยวคู่กับหมากใช้ต้อนรับแขก ใช้เชื่อมสัมพันธ์พบปะสังสรรค์แล้ว ยังเป็นเครื่องบอกรักระหว่างหนุ่มสาว ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้หมากพลูไปแล้วอีกฝ่ายให้หมากพลูตอบกลับ แสดงว่ารักนั้นสมหวัง แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องดื่มน้ำบัวบกแทน

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

การประคบสมุนไพร

                    การประคบสมุนไพร คือ  การใช้สมุนไพรหลายอย่างมาห่อรวมกัน ส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหย โดยนำมานึ่งให้ร้อน ประคบบริเวณที่ปวดหรือเคล็ดขัดยอก  ซึ่งน้ำมันหอมระเหยเมื่อถูกความร้อนจะระเหยออกมา ความร้อนจากลูกประคบจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และยังมีสารสำคัญจากสมุนไพรบางชนิดที่ซึมเข้าทางผิวหนัง ช่วยรักษาอาการเคล็ด ขัด ยอก และลดปวดได้

สมุนไพรหลายอย่างมาห่อรวมกัน กลายเป็นลูกประคบ

อุปกรณ์การทำลูกประคบ
                    ๑.  ผ้าดิบสำหรับห่อลูกประคบ ขนาดกว้าง ๓๕ x ยาว ๓๕ เซนติเมตร ๒ ผืน
                    ๒.  เชือกหรือผ้า
                    ๓.  ตัวยาที่ใช้ทำลูกประคบ
                    ๔.  เตาพร้อมหม้อสำหรับนึ่งประคบ
                    ๕.  จาน หรือ ชามอลูมิเนียมเจาะรู(เพื่อให้ไอน้ำผ่านได้) รองลูกประคบ

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

การอบสมุนไพร

การใช้สมุนพรในการอบมี 2 แบบ
                    การอบสมุนไพร เป็นวิธีการบำบัดรักษาและส่งเสริมสุขภาพ ตามหลักของการแพทย์แผนไทย โดยใช้หลักการอบสมุนไพร คือ ต้มสมุนไพรหลาย ๆ  ชนิดรวมกัน ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรที่มี น้ำมันหอมระเหยและสมุนไพรรักษาตามอาการ สมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวนำมาต้มจนเดือด ไอน้ำ น้ำมันหอมระเหย และสารระเหยต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ในสมุนไพรจะออกมาสัมผัสถูกผิวหังทำให้มีผลเฉพาะที่ และสูดดมเข้าไปกับลมหายใจ มีผลต่อระบบทางเดินหายใจและผลทั่วร่างกาย ดังนั้นผลการรักษาด้วยการอบสมุนไพรที่ซึมผ่านผิวหนัง และเข้าไปกับลมหายใจซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้
                    1.  ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายดีขึ้น คลายความตึงเครียด
                    2.  ช่วยชำระล้างและขับของเสียออกจากร่างกาย
                    3.  ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบรรเทาอาการปวดเมื่อย
                    4.  ช่วยทำให้ระบบการหายใจดีขึ้น
                    5.  ช่วยบำรุงผิวพรรณ บรรเทาอาการผด ผื่น คัน
                    6.  ช่วยให้น้ำหนักร่างกายลดลงได้ชั่วคราว
                    7.  ช่วยมดลูกเข้าอู่เร็วในหญิงหลังหลอด
                    8.  ช่วยให้สบายตัว ลดอาการปวดศรีษะ

ธาตุเจ้าเรือน

ธาตุเจ้าเรือน คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ

                    ในทฤษฎีการแพทย์แผนไทย เชื่อว่า  การเกิดชีวิตใหม่จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีพ่อมีแม่ที่มีลักษณะของหญิง - ชายครบถ้วน  หมายถึง  พ่อมมีลักษณะของชายครบและมีแม่มีลักษณะของหญิงครบ  โดยให้ความหมายของชีวิตไว้ว่า ชีวิตคือขันธ์ 5 อันได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
                    รูป  หมายถึง  รูปร่าง ร่างกาย หรือ สิ่งที่เป็นรูปธรรม  ซึ่งในพระไตรปิฎกได้อธิบายไว้ว่า รูปมีมหาภูตรูป 4 ได้แก่  ดิน น้ำ ลม ไฟ  และรูปที่เกิดจากมหาภูตรูป เรียกว่า อุปทายรูป ได้แก่  อากาศ และประสาททั้ง 5 ได้แก่  ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เกิด รูป รส กลิ่น เสียง เป็นอาภรณ์ 4
                    เวทนา  ได้แก่  ความรู้สึกต่าง ๆ  ซึ่งเกิดจากประสาททั้งห้า เป็นต้น
                    สัญญา  ได้แก่  ความจำต่าง ๆ  การกำหนดรู้อาการ จำได้ หมายรู้
                    สังขาร  ได้แก่  การปรุงแต่งของจิต  ความคิดที่ผูกเป็นเรื่องราว ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าสังขาร คือ ร่างกาย เช่น มักพูดว่า "คนแก่ไม่เจียมสังขาาร" หมายถึง  ทำอะไรเกินกว่าร่างกายซึ่งชราจะรับได้ แท้จริงสังขารเป็นความนึกคิดก่อหรือผูกเป็นเรื่องราวนั่นเอง

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

อัญชันไม้ประดับที่ไม่ใช่แค่ประดับ

ดอกอัญชัน จะช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นได้

ชื่อสามัญ : Blue Pea,Butterfly Pea

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Clitoria ternatea

ชื่อวงศ์ : Fabaceae

ชื่ออื่น : แดงชัน,เอื้องชัน

ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์
                  พืชไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ลำต้นมีขนนุ่มปกคลุม ใบเป็นรูปไข่ ผิวและขอบเรียบ ใบบางสีเขียบ ดอกมี 2 ชนิด มีทั้งดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน ดอกมีสีน้ำเงินแก่ ม่วงแดง ม่วงอ่อน และขาว ดอกมีรูปทรงคล้ายกับกรวย กลีบรูปกลม ปากเว้า เป็นแอ่งตรงกลางกลีบ มีสีเหลือง